หน่วยงานกำกับดูแลกฎฟุตบอล กำลังจะประเมินความจำเป็นในการอนุญาตให้ VAR ตรวจสอบลูกฟรีคิก เตะมุม และใบเหลืองใบที่ 2 ซึ่งคณะทำงานเชื่อว่าสิ่งที่กล่าวมาอาจนำไปสู่ความล่าช้าอย่างมากในเกม
เดอะ ไทมส์ สื่อดังของอังกฤษ ออกมาเปิดเผยว่าคณะกรรมการสมาคมฟุตบอลนานาชาติ (IFAB) ซึ่งรับผิดชอบในการควบคุมกฎกติกาฟุตบอล จะหารือในวันอังคารที่ 28 พฤศจิกายน ที่กรุงลอนดอน ถึงความจำเป็นในการขยายอำนาจของผู้ช่วยผู้ตัดสินวิดีโอ (VAR) ในการจังหวะฟรีคิก ลูกเตะมุม และใบเหลืองใบที่ 2รวมถึงนอกอาจมีการพูดคุยในอีกหลายประเด็น ทั้ง การกำชับให้นักเตะที่ยิงจุดโทษ ต้องตั้งบอลให้อยู่กึ่งกลางจุดโทษ หรือการอนุญาตให้กัปตันทีมเท่านั้นที่มีสิทธิ์คุยกับผู้ตัดสิน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม คณะทำงานด้าน VAR ที่ฟีฟ่า ตั้งขึ้นมีความกังวลว่าการขยายอำนาจของผู้ช่วยวิดีโอจะนำไปสู่ความล่าช้าอย่างมากในการแข่งขัน ซึ่งเรื่องนี้จะได้รับการตัดสินใจในการประชุม IFAB ประจำปีในเดือนมีนาคม โดยระบบ VAR ได้รับการรวมเข้ากับกฎฟุตบอลอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2018 ก่อนการแข่งขันฟุตบอลโลกที่รัสเซียเป็นเจ้าภาพในปีนั้นซึ่งระบบ VAR ได้ถูกใช้ในเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจที่ถูกต้องในสถานการณ์ทั้ง (ตำแหน่งล้ำหน้าหรือละเมิดกฎต่างๆ) การตัดสินจุดโทษ การแจกใบแดงที่เป็นไปได้ให้กับผู้เล่น หรือการแก้ไขข้อผิดพลาดในการระบุผู้เล่นที่ถูกลงโทษ .
ทั้งนี้หากเกิดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว อาจทำให้มีเสียงวิจารณ์เพิ่มขึ้น เนื่องจากในเวลานี้ หลายฝ่ายได้ตำหนิการเช็ก VAR ในจังหวะต่างๆ ว่าใช้เวลามากเกินไป ซึ่งในฤดูกาลนี้เกมพรีเมียร์ลีก ที่เสียเวลา VAR มากที่สุด คือเกมที่ เชลซี บุกไปชนะ สเปอร์ส 4-1 ซี่งเกมนั้นมีการมีการเช็กวีเออาร์ถึง 9 ครั้ง ทดเวลาเพิ่มเติม 2 ครึ่งรวมกับถึง 21 นาที
"ผมรู้ว่านั่นคือสิ่งที่เราจะพูดคุยกันใน IFAB เราคงไม่เต็มใจจริงๆ ที่จะมีเกมที่หยุดมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน แต่นั่นจะเป็นการพูดคุยที่ถูกต้อง" มาร์ค บูลลิงแฮม ผู้บริหารระดับสูงของสมาคมฟุตบอลและสมาชิก IFAB เผย
สำหรับการเปลี่ยนแปลงอย่างกฎใดๆ ที่กล่าวมานั้นจะต้องได้รับเสียงโหวตจากคณะกรรมการ “ไอเอฟเอบี” อย่างน้อย 6 จาก 8 เสียง ด้วยกัน